สถาบันทางการ เงินที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกของประเทศต้องย้อนกลับไปถึงสมัยรัชกาลที่ 5 ในครั้งที่ก่อตั้งใช้เพียงตึกในบริเวณพระราชวังเพียงไม่กี่ตึกเท่านั้น มีเงินทนเพียง 30,000 บาทเท่านั้น ที่ต้องทำการจัดตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นประโยชน์ต่อประเทศในยุดนั้นเป็นเพราะว่า ในยุคนั้นมีฝรั่งจะเข้ามาดูแลกิจการการคลังและใช้เงินในการลงทุนถึง 1 ล้านปอนด์ และให้คนไทยมีส่วนร่วมมากที่สุดไม่เกิน 50 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ทำเหมือนจะเข้ามายึดการคลังของบ้านเรา ทางรัชกาลที่ 5 สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงต้องเดินทางไปดูงานในเรื่องที่เกี่ยวกับ การธนาคาร ยังต่างแดนกินเวลาไปประมาณ 9 เดือนด้วยกัน และได้ทรงให้มีการจัดตั้งสถาบันธนาคารทางการเงินของเราขึ้นมาเอง ในนามของแบงค์ สยามกัมมาจล แต่ในปัจจุบันได้ทำการเปลี่ยนชื่อไปแล้วเป็น ธนาคารไทยพาณิชย์ในปัจจุบัน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2482 นั่นเป็นจุดประสงค์ที่รับสั่งให้มีการจัดตั้งธนาคารของบ้านเราขึ้นมาเองแต่ ยุคสมัยนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว สถาบันทางการเงินเหล่านั้นได้ถูกจัดออกเป็นหลายส่วนด้วยกัน ทั้งการฝาก-ถอนเงิน หรือให้คำปรึกษาในการบริการเงิน ปล่อยสินเชื่อและบัตรเครดิตต่างๆ รวมถึงเป็นแหล่งเงินทุนในการทำธุรกิจต่างๆ ขึ้นอยู่กับว่าการลงทุนนั้นต้องการเงินในการลงทุนมากหรือน้อย แต่การที่จะได้เงินเหล่านั้นมา ลูกค้าต้องมีการวางแผนเพื่อเป็นการขออนุมัติให้ผ่าน แต่สมัยนี้บางคนที่ต้องการเงินเพียงแค่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน เป็นบ้าน หรือที่ดินก็ได้แล้วเหมือนการกู้เงินซะมากกว่า และนี่เป็นเหตุผลที่ว่าไมในสมัยรัชกาลที่ 5 ถึงมีการจัดตั้งธนาคารขึ้นอีกข้อหนึ่งเป็นการรักษาผลประโยชน์ของคนในประเทศ ครั้งหน้าเราจะไปดูธุรกิจบางตัวที่ได้รับเงินลงทุนแล้วนำไปสร้างรายได้มาก มายและเกิดผลประกอบการตามเป้าหมายที่วางร่วมกันกับธนาคารสถาบันนั้นๆ